ค่าตัวดังกล่าวประกอบด้วย 100 ล้านปอนด์การันตี และอีก 16 ล้านปอนด์ในรูปแบบโบนัส ซึ่งจะจ่ายเมื่อทีมประสบความสำเร็จในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง หากเป็นจริงจะกลายเป็นสถิติใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษ

เวียร์ตซ์เคยเป็นเป้าหมายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และบาเยิร์น มิวนิค แต่เจ้าตัวแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าต้องการย้ายมาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ โดยลิเวอร์พูลสามารถเจรจาปิดดีลได้ในราคาต่ำกว่าที่เลเวอร์คูเซ่นตั้งไว้ที่ราว 126 ล้านปอนด์

เวียร์ตซ์ลงเล่นให้เลเวอร์คูเซ่นไป 197 นัด ยิงได้ 57 ประตู และเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2024 พร้อมกับลงสนามให้ทีมชาติเยอรมนี 31 นัด ยิงไป 7 ประตู

ดีลนี้นับเป็นการเสริมทัพรายที่สองของหงส์แดงจากเลเวอร์คูเซ่นในซัมเมอร์นี้ ต่อจากแบ็คขวา เจเรมี ฟริมปง ที่ย้ายมาในราคา 34 ล้านปอนด์ ขณะที่ลิเวอร์พูลกำลังเจรจาคว้าตัว มิโลช เคอร์เคซ แบ็คซ้ายจากบอร์นมัธ ด้วยค่าตัวระหว่าง 45-50 ล้านปอนด์

ด้านการปล่อยนักเตะ ลิเวอร์พูลได้ขายนายทวาร ควีวิน เคลเลเฮอร์ ให้เบรนท์ฟอร์ดในราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านปอนด์ และอาจขายดาร์วิน นูนเญซ, จาเรลล์ ควานซาห์ และโจ โกเมซ ในช่วงซัมเมอร์นี้เช่นกัน ส่วน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ย้ายร่วมทีมเรอัล มาดริด ด้วยค่าปล่อยตัวราว 8.4 ล้านปอนด์

วิเคราะห์โดย เอดู รูบิโอ อดีตโค้ชเวสต์แฮม, วูล์ฟส์ และพาเลซกล่าวว่า เวียร์ตซ์เป็นผู้เล่นที่หลากหลาย เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางและแนวรุกฝั่งซ้าย มีจุดเด่นเรื่องการจ่ายบอลทะลุช่องและการหาพื้นที่ในเกมรุก นอกจากนี้ยังมีวินัยการเล่นที่ดีและทัศนคติยอดเยี่ยม แม้ต้องลุ้นเรื่องการปรับตัวกับเกมพรีเมียร์ลีกที่เร็วและเข้าปะทะหนักกว่า บุนเดสลีกา